นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัว สำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคล
(Human Resources Privacy Policy)
บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ("บริษัทฯ" หรือ "เรา")
ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็น พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน พนักงานภายนอก/พนักงานผู้ช่วย (outsource)
พนักงานที่ไปปฏิบัติงานที่องค์กรอื่น นักศึกษาฝึกงาน นักเรียนทุน ที่ปรึกษา วิทยากร และ/หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้กระทำการแทน (เรียกรวมกันว่า "ท่าน")
โดยบริษัทฯ ทราบดีว่าท่านคำนึงถึงและให้ความสำคัญกับวิธีการที่ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ
ซึ่งบริษัทฯ และบริษัทในเครือ จะนำข้อมูลที่ท่านเปิดเผยให้กับบริษัทฯ นั้นไปใช้เพื่อการดำเนินงานเกี่ยวกับบริหารทรัพยากรบุคคล
โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบายความเป็นส่วนตัว") ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานระหว่างบริษัทฯ กับท่าน
หรือสัญญาบริการที่บริษัทฯ ทำกับนายจ้างของท่าน
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว บริษัทฯ จึงใคร่ ขอให้ท่านหมั่นตรวจสอบการแก้ไขปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่เสมอ โดยการปรับปรุงแก้ไขใด ๆ จะมีผลทันทีเมื่อบริษัทฯ โพสต์นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงแก้ไขลงในเว็บไซต์ของบริษัท
1. บทนิยาม
บริษัทในเครือหมายถึง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ถือหุ้น
ของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วมของบริษัทฯ และหมายความรวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทหรือนิติบุคคลที่บริษัทฯ มีอำนาจควบคุม หรือถือหุ้นที่มีสิทธิ
ออกเสียงในบริษัทหรือนิติบุคคลนั้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ว่าจะถือหุ้นเองโดยตรงหรือถือหุ้นโดยอ้อม
ผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตาม
บริษัทร่วม หมายถึง บริษัทที่บริษัทฯ หรือบริษัทย่อย ถือหุ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ และมีอำนาจ ในการ มีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทฯ
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้
ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่นรวมถึง ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ของท่าน โดยตรงจากท่าน (เช่น
เก็บผ่านเอกสาร เว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ) หรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ
(เช่น จากบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ) ตามที่ท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ และตามความต้องการของท่านในการเข้าทำสัญญาจ้างงานกับบริษัทฯ
โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปต่างประเทศ ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ
ของท่านตามหน้าที่และความรับผิดชอบของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่อยู่ติดต่อ
เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น นามบัตร รูปถ่าย สัญชาติ เพศ สถานภาพสมรส ทะเบียนสมรส อายุ วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด น้ำหนัก ส่วนสูง ลายมือชื่อ ภาษาที่ใช้สื่อสาร ความสนใจ/งานอดิเรก หมายเลขทะเบียนรถยนต์หรือพาหนะอื่น ๆ เลขที่ประกันสังคม ประเภทของบ้านที่อยู่ (เช่น เป็นเจ้าของ บ้านเช่า หอพัก หรืออาศัยกับบุคคลอื่น) หนังสือสำคัญประจำตัวสำหรับการรับราชการทหาร สถานะการเข้ารับราชการทหาร หรือข้อมูลบัตรประจำตัวอื่น ๆ รวมถึง การถือหุ้นของท่าน (เช่น จำนวนหุ้นที่ถือ วันที่ถือ/ขายหุ้น ประเภทของหุ้นที่ถือ) ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ชื่อบัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น LINE ID)
(2) ข้อมูลที่ระบุตัวตนซึ่งระบุอยู่ในเอกสารที่ออกโดยทางราชการ และ/หรือ สำเนาของเอกสารดังกล่าว
เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ใบอนุญาตขับขี่ หนังสือเดินทาง วีซ่า ใบต่างด้าว ใบอนุญาตทำงาน ทะเบียนบ้าน หมายเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีอากร
(3) ข้อมูลประวัติส่วนบุคคล
เช่น ประสบการณ์การทำงาน ประวัติการฝึกงาน/ทำงาน (เช่น ตำแหน่งงาน วันที่เริ่มและวันที่สิ้นสุด ชื่อบริษัท ประเภทธุรกิจ ประเทศ บทบาท หน้าที่รับผิดชอบ/ผลงาน เหตุผลที่ลาออกจากงาน) ประวัติสมาชิกชมรมต่าง ๆ ประวัติการศึกษาหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ทุนการศึกษา (เช่น วุฒิการศึกษา ผลการสอบวัดระดับ ทางการศึกษา สถาบันการศึกษา สาขา/วิชา/คณะ) ทักษะทางภาษาอื่นๆ (ที่ได้รับรองจากสถาบัน) ทักษะทางคอมพิวเตอร์ ความสามารถพิเศษอื่น ๆ ใบประกาศณียบัตรต่าง ๆ ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะต่าง ๆ (เช่น ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้สอบบัญชี หรือ ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ) ประวัติส่วนตัว ข้อมูลที่สำคัญเพื่อใช้ในการตรวจสอบประวัติของท่าน
(4) ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน
เช่น ประเภทของสัญญาจ้างหรือสัญญาบริการ ข้อมูลบัตรประจำตัวพนักงาน รหัสพนักงาน หมายเลขโทรศัพท์ภายใน สถานะของพนักงาน หมายเลขประจำตำแหน่งงาน รหัสระดับงาน รหัสกลุ่มพนักงาน รหัสหน่วยงาน ตำแหน่งงาน ฝ่ายงาน สายงานและลักษณะงานที่สนใจ หน่วยงานที่สังกัด พื้นที่ปฏิบัติงาน/สถานที่ปฏิบัติงาน หน้าที่รับผิดชอบ/ผลงาน ระยะเวลาในการทำงาน วันเริ่มต้นงานและวันสิ้นสุด วันที่เกษียณ ข้อมูลบันทึกเวลาทำงาน ประวัติการไปปฏิบัติงานที่องค์กรอื่น (เช่น ชื่อบริษัท ประเทศ ประเภทธุรกิจ ตำแหน่งงาน วันที่เริ่มงาน วันที่สิ้นสุด ประเภทของสัญญาจ้างหรือสัญญาบริการ ที่อยู่ที่ทำงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ) ข้อมูลตำแหน่งสนับสนุน ข้อมูลการปฏิบัติงานต่างจังหวัด ประวัติการใช้วันลา การปฏิบัติงานต่างประเทศ ภาพถ่าย เสียง และวิดีโอระหว่างการปฏิบัติงานของท่าน ผลการประเมินผลการทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการอบรมของพนักงาน บันทึกทางวินัย รายละเอียดการร้องเรียน ข้อกล่าวหาทางวินัย ผลการสืบสวนสอบสวนภายใน โทษทางวินัย ข้อมูลการดำเนินการคดี ประวัติการล้มละลาย ข้อมูลการเลิกจ้าง
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและสวัสดิการของท่าน เช่น อัตราเงินเดือนที่ต้องการ บันทึกค่าตอบแทน (เช่น ฐานเงินเดือน ระดับเงินเดือน โบนัส ค่าทำงานล่วงเวลา ค่าทำงานกะ ค่าทำงานนอกสถานที่ เงินค่าทำงานพิเศษ) ข้อมูลสวัสดิการและเอกสารประกอบการใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ (เช่น เงินชดเชย เงินบำนาญ สวัสดิการค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ข้อมูลการเบิกส่วนลดน้ำมัน ค่าเล่าเรียนบุตร เงินทุนการศึกษา และสวัสดิการพิเศษของพนักงาน) ข้อมูลการหักเงิน (เช่น สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภาษี ประกันสังคม) ข้อมูลกองทุนประกันสังคม ข้อมูลกองทุนเงินทดแทน ข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (เช่น เหตุผลในการขอกู้ยืม จำนวนเงินกู้ยืม การชำระเงินคืนสำหรับการกู้ยืม และดอกเบี้ยกู้ยืม) ข้อมูลการหักค่าจ้างเนื่องมาจากการดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมถึง รายละเอียดบัญชีธนาคาร จำนวนหนี้สิน หลักประกันต่าง ๆ วันที่ชำระเงินและวิธีการชำระเงิน สกุลเงินที่ชำระ
(6) ข้อมูลทางเทคนิค
เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) ข้อมูลที่อยู่การควบคุมการเข้าใช้งานสื่อกลาง (Media Access Control) ประวัติจราจรทางคอมพิวเตอร์ คุกกี้ ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
(7) การเข้าร่วมกิจกรรมและการฝึกอบรม เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนฝึกอบรม ชื่อหลักสูตร วันที่เริ่มและจบหลักสูตร ระยะเวลา ชั่วโมงการอบรม ค่าธรรมเนียมการอบรม สถานที่จัดการอบรม เหตุผลในการเข้าอบรม และผลสำรวจการเข้าอบรม ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ
(8) ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ เช่น ข้อมูลจากระบบจีพีเอส
(9) ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียงจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(10) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่ระบุในเอกสารราชการ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าและข้อมูลลายนิ้วมือ) ข้อมูลความพิการ (เช่น บัตรประจำตัวผู้พิการ)
หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลอื่น (เช่น บิดามารดา บุตร คู่สมรส ผู้ค้ำประกัน บุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง บุคคลอ้างอิงกรณีฉุกเฉิน ผู้อยู่ในความอุปการะและผู้รับประโยชน์ของท่าน) แก่บริษัทฯ (เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์) เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านควรมั่นใจว่าท่านมีสิทธิ และ/หรือ อำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ ขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น (หากจำเป็น) และ/หรือ อาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
เราจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ (ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กล่าวคือ อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามที่กฎหมายกำหนด) คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ และไม่อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวสมัครเพื่อใช้หรือซื้อผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการของเรา หากไม่ได้รับความยินยอมหรือหากไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด ทั้งนี้หากเราทราบว่า เราได้บังเอิญเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเหล่านี้ โดยมิได้รับความยินยอมและโดยไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด เราจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันทีที่เราทราบถึงกรณีดังกล่าว และอาจจำเป็นต้องหยุดให้บริการบุคคลเหล่านี้ เว้นแต่กรณีที่เราอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
3. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมโดยชัดแจ้ง
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย ทั้งนี้วัตถุประสงค์ต่าง ๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน มีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารราชการสำหรับการระบุตัวตน เพื่อการตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่าน และเพื่อเป็นเอกสารประกอบการจ้างงาน
- ข้อมูลศาสนา เพื่อจัดสวัสดิการและผลประโยชน์สำหรับท่าน (เช่น การจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสม ห้องสวดมนต์ หรือ สถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา)
- ข้อมูลสุขภาพ เพื่อพิจารณาเข้ารับทำงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านชีวอนามัยในที่ทำงานและพิจารณาความเหมาะสมของตำแหน่งงานของท่าน เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่ง เพื่อกำหนดสวัสดิการ วันลา และ/หรือ การเบิกจ่ายสวัสดิการและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล การประกันสุขภาพ การตรวจร่างกายประจำปี เพื่อจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสม
- ประวัติอาชญากรรม เพื่อการพิจารณาเข้ารับทำงาน ปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งหรือกำหนดที่ทำงานของท่าน เพื่อรายงาน และดำเนินการทางวินัย
- ข้อมูลชีวภาพ เพื่อการเข้าออกพื้นที่ของบริษัทฯ
- ข้อมูลความพิการ เพื่อการพิจารณาเข้ารับทำงาน เพื่อคำนวณและจ่ายตามกองทุนคนพิการ
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ และบริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมเป็นรายกรณีไป หากเราไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
3.2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
บริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้ อาจไม่บังคับใช้กับท่าน โปรดพิจารณาวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ
กลุ่มที่ปรึกษา/วิทยากร
(1) การจัดจ้าง
เช่น การยืนยันตัวตน การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติ การตรวจสอบประวัติ การคัดเลือกที่ปรึกษา/วิทยากร การเข้าทำสัญญาหรือนิติกรรมที่เกี่ยวข้อง การทำจ่ายค่าตอบแทน และการทำเรื่องเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
(2) การดำเนินงาน
เช่น การอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษา/วิทยากร
กลุ่มผู้สมัครงาน
(1) การจัดการที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน และ/หรือ การจ้างงาน
เช่น การสรรหาพนักงาน การยืนยันตัวตนของท่าน การบันทึกข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากผู้สมัครงานในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสมัครงาน การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของผู้สมัครงาน การตรวจสอบประวัติผู้สมัครงาน
(2) การติดต่อสื่อสารกับท่าน
เช่น การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์ท่าน การจัดส่งเอกสาร เพื่อติดต่อบุคคลอ้างอิงของท่านในกรณีจำเป็นและฉุกเฉิน และการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร
กลุ่มพนักงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน พนักงานภายนอก/พนักงานผู้ช่วย (outsource) พนักงานที่ไปปฏิบัติงานที่องค์กรอื่น นักศึกษาฝึกงาน นักเรียนทุน
(1) การจัดการที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
เช่น การตัดสินใจจ้างงาน การเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือสัญญาบริการที่บริษัทฯ ทำกับนายจ้างของท่าน การจัดปฐมนิเทศให้พนักงาน การกำหนดเงินเดือน สวัสดิการและข้อมูลสัญญาพื้นฐานอื่น ๆ สำหรับพนักงานใหม่
(2) การบริหาร การจ่ายค่าตอบแทนและการให้สวัสดิการ
เช่น การจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน โบนัส และการจัดให้มีสวัสดิการ (เช่น ค่าชดเชย เงินทดแทน ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และด้านสุขภาพ ประกันภัย ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การให้ทุนการศึกษา (ซึ่งอาจรวมถึง การจัดทำประวัติผู้ขอทุน การใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการรับทุน) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและกองทุนอื่น ๆ) การประเมินเพื่อปรับเงินเดือน/ค่าตอบแทน รวมถึงการหักภาษีเงินได้ และการทำเรื่องเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่ท่าน
(3) การบริหารทรัพยากรบุคคลและการจัดการความสัมพันธ์ทางการจ้างงาน
เช่น การจัดทำฐานข้อมูลพนักงานและประวัติพนักงาน การบันทึกข้อมูลการทำงาน การออกบัตรประจำตัวพนักงาน บัตรเข้าออกอาคารสำนักงาน และ/หรือ บัตรอื่น ๆ การจัดฝึกอบรมหรืองานกิจกรรมอื่น ๆ การบริหารจัดการความสามารถและ การพัฒนาอาชีพ การสนับสนุนการทำงาน การติดตามชั่วโมงทำงานและเวลาเข้าเวลาออกงาน การจัดการหรือการอนุมัติวันลา การออกหนังสือรับรองตามที่ร้องขอ การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง การประเมินผลการทำงาน การจัดการทรัพยากรบุคคล การประเมินความเหมาะสมในตำแหน่งงาน การพิจารณา ปรับ ย้าย เปลี่ยนตำแหน่งหรือที่ทำงานของท่าน การเปลี่ยนแปลงประเภทของสัญญาจ้างงาน (เช่น จากพนักงานฝึกงานเป็นพนักงานประจำ) หรือสัญญาบริการที่บริษัทฯ ทำกับนายจ้างของท่าน การมอบหมายให้ไปทำงานนอกบริษัทฯ การจัดการและติดตามดูแลการเดินทางเพื่อธุรกิจ การบริหารจัดการใบอนุญาตทำงาน (เช่น ของพนักงานต่างชาติ) การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการทำงานและการใช้ทรัพย์สินของบริษัทฯ รวมถึงการดูและซ่อมบำรุง การบริหารจัดการแผนการเกษียณอายุพนักงาน การจัดให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
เพื่อส่งเสริมและรับรองความเท่าเทียมระหว่างพนักงาน การจัดทำและรักษาแผนผังองค์กร หน่วยงาน และคณะทำงานภายในองค์กร การบริหารจัดการการอบรมว่าด้วยจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การตัดสินใจเรื่องการลงทุน การคาดการณ์และการวางงบประมาณ การจัดการต่อคำร้องเรียน การดำเนินการทางวินัย การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้าง การออกจากงานและการเกษียณอายุ การบริหารจัดการบัญชีผู้ทิ้งงาน (Blacklist)
(4) เพื่อการดำเนินการของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
เช่น เพื่อการให้บริการลูกค้า และการสื่อสารกับบริษัทในเครือ และพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อวางแผน ดำเนินการ และจัดการความสัมพันธ์และสิทธิทางสัญญา กับบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอำนาจให้ท่านดำเนินการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทในเครือ และพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมไปถึงการนำชื่อและ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไประบุในสัญญาที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการดังกล่าว และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ กำหนดตามสมควรที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานท่าน (เช่น เพื่อดำเนินกิจกรรมหรือดำเนินการต่าง ๆ เพื่อบริษัทฯ/ในนามของบริษัทฯ) และเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุในสัญญาจ้างแรงงาน หรือสัญญาบริการที่บริษัทฯ ทำกับนายจ้างของท่าน ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน และเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ การตรวจสอบบัญชีและการบัญชี (ทั้งภายในและภายนอก)
การวิเคราะห์และควบคุมต้นทุน/งบประมาณ และการคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
(5) การบริหารจัดการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการธุรกิจของเรา ดำเนินการประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร รวมถึงการจัดการระบบปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบติดต่อสื่อสาร ระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร การติดตามการใช้อินเทอร์เน็ต อีเมล และโทรศัพท์
วัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ให้บังคับใช้กับท่านทุกคน
(1) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
เช่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กระบวนพิจารณา หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล ผู้กำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ในกรณีบริษัทฯ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือ คำสั่ง หรือต้องให้ความร่วมมือดังกล่าว โดยบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของรัฐดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนภายใน การร้องเรียนหรือการเรียกร้อง การสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันอาชญากรรม การฉ้อโกง และ/หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(2) เพื่อปกป้องผลประโยชน์โดยชอบของเราและบริษัทในเครือ
เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของเราหรือของบริษัทในเครือ เพื่อการวิเคราะห์ ประเมิน บริหาร และจัดการความเสี่ยง เพื่อใช้สิทธิของเราและปกป้องผลประโยชน์ของเราหรือของบริษัทในเครือเมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตใด ๆ ข้อร้องเรียนเรื่อง การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย) เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงและการสอบสวนกรณีการละเมิดข้อตกลง เพื่อตรวจจับและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของเรา (เช่น การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด) และรายงานการกระทำความผิด เพื่อดำเนินการบริหาร การจัดทำรายงาน นโยบายภายในองค์กรตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของเรา การเยียวยาหรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทฯ การก่อตั้ง การใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ และ/หรือ การดำเนินการอื่นใดเพื่อการคุ้มครองลูกค้า พนักงาน บุคคลอื่น ๆ ข้อมูล ความลับทางการค้า สิทธิและทรัพย์สินของบริษัทฯ และของบริษัทในเครือ
(3) การซื้อขายกิจการขององค์กร
ซึ่งรวมถึงในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การโอนสิทธิ การเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจำหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น การฟื้นฟูกิจการ การร่วมทุนหรือการทำธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของเรา ไม่ว่าจะรายเดียวหรือหลายราย โดยที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมนั้น ๆ
(4) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ทั้งนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราอาจส่งผลกระทบต่อท่าน กล่าวคือ เราไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ หรือท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส และในบางกรณี เราอาจไม่สามารถตกลงจ้างท่านหรือดำเนินการจ้างงานกับท่านได้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวยังอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่เราหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
4. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลหรือหน่วยงานใดบ้าง
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ท่านเองก็อาจตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นได้เช่นกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย
4.1. บริษัทในเครือ
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือ นั้น เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
4.2. ผู้ให้บริการของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจว่าจ้างบริษัทอื่น ตัวแทน หรือผู้รับจ้างในการให้บริการในนามของบริษัทฯ หรืออำนวยความสะดวกในการมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้กับท่าน โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า (3) ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (4) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (5) ผู้ให้บริการจัดอบรมสัมมนา / วิทยากร (6) ผู้ให้บริการทางการเงินเพื่อการทำจ่ายค่าตอบแทนพนักงาน (7) ผู้ให้บริการสิทธิสวัสดิการพนักงาน (เช่น บริษัทประกัน โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล บริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) (8) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือ ทำลายเอกสาร (9) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์หรือการนำส่งอีเมล (10) ผู้ให้บริการด้านการจัดหางานและการบริหารทรัพยากรบุคคล (11) ผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติบุคคลเพื่อสรรหาบุคลากร (12) ผู้ให้บริการด้านใบอนุญาตทำงานและวีซ่า (13) ผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน (14) ผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น/ความพึงพอใจ และ/หรือ (15) ธนาคารและสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ในการให้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทฯ เพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแต่อย่างใด
4.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเปิดเผยหรือโอนในลักษณะนี้จะอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอก มิใช่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
4.4. บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทฯ มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
4.5. ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ที่ปรึกษาอิสระ เช่น ที่ปรึกษาโครงการ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาทางบัญชี ที่ปรึกษาทางการตลาด (2) ที่ปรึกษากฎหมายซึ่งให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และให้บริการดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คดีหรือฟ้องร้องคดี (3) ผู้สอบบัญชีซึ่งให้บริการด้านบัญชี หรือตรวจสอบบัญชีแก่บริษัทฯ และ/หรือ (4) ผู้ตรวจสอบหรือผู้ตรวจประเมินอื่น ๆ
ของบริษัทฯ และให้บริการดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คดีหรือฟ้องร้องคดี (3) ผู้สอบบัญชีซึ่งให้บริการด้านบัญชี หรือตรวจสอบบัญชีแก่บริษัทฯ และ/หรือ (4) ผู้ตรวจสอบหรือผู้ตรวจประเมินอื่น ๆ
4.6. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่
ในกรณีมีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การโอนสิทธิ การเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจำหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือการทำธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของบริษัทฯ จะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อเป็นการเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.7. ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด เพื่อวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านร้องขอ ผู้ขอตรวจสอบบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สื่อมวลชน และ/หรือ การเปิดเผย สู่สาธารณะ
5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือผู้ให้บริการที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่า บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนไปในระดับที่เพียงพอ และบุคคลที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมหรือตามที่กฎหมายกำหนด และในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากเป็นกรณีที่กฎหมายต้องให้ขอความยินยอม
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสมเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ แจ้งแก่ท่านตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้น หากจำเป็น และ/หรือ สามารถกระทำได้โดยชอบตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
(1) การเข้าถึง
ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน
(2) การแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ให้ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(3) การโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ และ (ข) กรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ มีกับท่าน ทั้งนี้ หากการใช้สิทธิของท่านละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ มีดุลพินิจในการปฏิเสธคำขอของท่านได้
(4) การคัดค้าน ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
(5) การระงับการใช้ ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี
(6) การถอนความยินยอม
สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ในบางประการ หากท่านประสงค์ที่จะทำความเข้าใจเพิ่มเติมถึงผลกระทบในการถอนความยินยอมของท่าน หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิขอถอนความยินยอม โปรดติดต่อเราได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุด้านล่างนี้
(7) การลบหรือทำลาย ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของบริษัทฯ นั้นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(8) การร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ก่อนที่เราจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน เราอาจมีความจำเป็นในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ด้วยเหตุนี้เอง เราอาจขอให้ท่านมอบ/แจ้ง ข้อมูลการยืนยันตัวตนของท่าน (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ที่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนใด ๆ) เมื่อเรายืนยันตัวตนของท่านเสร็จสิ้น เราจะดำเนินการตามคำของท่านโดยเร็ว แต่ไม่ว่าในกรณีใด จะไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว ในกรณีที่เราเห็นว่าคำขอนั้นไม่สมเหตุสมผล (manifestly unfounded) หรือฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น (excessive) อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อการปฏิบัติตามคำขอดังกล่าว
8. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการเข้าใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. ติดต่อเรา
หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ
บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด
555/1 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ ชั้น 3
ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทร +66(0) 2140 1555
อีเมล pdpa@pttlng.com
ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
(นายรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์)
กรรมการรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่