นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกรรมการ
(Director Privacy Policy)
บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ("บริษัทฯ" หรือ "เรา") ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นกรรมการ ("ท่าน") โดยบริษัทฯ ทราบดีว่าท่านคำนึงถึงและให้ความสำคัญ
กับวิธีการที่ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ
และบริษัทในเครือ จะนำข้อมูลที่ท่านเปิดเผยให้กับบริษัทฯ นั้นไปใช้เพื่อการดำเนินงานเกี่ยวกับ
การเป็นกรรมการของท่าน โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคลฉบับนี้
("นโยบายความเป็นส่วนตัว") ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานระหว่างบริษัทฯ กับท่าน
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว บริษัทฯ จึงใคร่ขอให้ท่านหมั่นตรวจสอบการแก้ไขปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่เสมอ โดยการปรับปรุงแก้ไขใดๆ
จะมีผลทันทีเมื่อบริษัทฯ ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงแก้ไขลงในเว็บไซต์ของบริษัท
1. บทนิยาม
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ถือหุ้น
ของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วมของบริษัทฯ และหมายความรวมถึงผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทหรือนิติบุคคลที่บริษัทฯ มีอำนาจควบคุม หรือถือหุ้นที่มีสิทธิ
ออกเสียงในบริษัทหรือนิติบุคคลนั้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ว่าจะถือหุ้นเองโดยตรงหรือถือหุ้นโดยอ้อม
ผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตาม
บริษัทร่วม หมายถึง บริษัทที่บริษัทฯ หรือบริษัทย่อย ถือหุ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 20 แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ และมีอำนาจในการ
มีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทฯ
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นหรือเชื่อมโยงไปยังบุคคลนั้นได้
ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสามารถแยกความแตกต่างหรือสามารถสืบค้นกลับไปที่ตัวบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าโดยลำพังหรือโดยรวมเข้ากับข้อมูลอื่น ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ และกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่นรวมถึง ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับ
การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือ
นิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ของท่าน โดยตรงจากท่าน (เช่น
เก็บผ่านเอกสาร เว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ) หรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ
(เช่น จากบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ) ตามที่ท่านติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ และตามความต้องการของท่านในการเข้าทำสัญญาจ้างงานกับบริษัทฯ
โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปต่างประเทศ ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ
ของท่านตามหน้าที่และความรับผิดชอบของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่อยู่ติดต่อ
เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น นามบัตร รูปถ่าย สัญชาติ เพศ สถานภาพสมรส ทะเบียนสมรส อายุ วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด ลายมือชื่อ ภาษาที่ใช้สื่อสาร หมายเลขทะเบียนรถยนต์หรือพาหนะอื่น ๆ ข้อมูลการถือหุ้นของท่าน (เช่น จำนวนหุ้นที่ถือ วันที่ถือ/ขายหุ้น ประเภทของหุ้นที่ถือ) ที่อยู่ปัจจุบัน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์บ้าน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ บัญชีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (LINE ID)
(2) ข้อมูลที่ระบุตัวตนซึ่งระบุอยู่ในเอกสารที่ออกโดยทางราชการ และ/หรือ สำเนาของเอกสารดังกล่าว
เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบอนุญาตขับขี่ หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หนังสือรับรองบริษัท
(ที่ระบุรายชื่อกรรมการบริษัท)
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน เช่น ข้อมูลบัตรประจำตัวกรรมการ รหัสกรรมการ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ฝ่ายงาน สายงาน หน่วยงานที่สังกัด รายละเอียดสัญญาการเป็นกรรมการ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการเป็นกรรมการ วันที่เริ่มและวันที่สิ้นสุดการเป็นกรรมการ
หน้าที่ความรับผิดชอบ ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะต่าง ๆ รายละเอียดการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งกรรมการ
(4) บันทึกการเข้าร่วมประชุม เช่น ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงจากการบันทึกการประชุม
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและสวัสดิการของท่าน เช่น บันทึกค่าตอบแทน เงินปันผล
(เช่น เบี้ยประชุม ค่าตอบแทนกรรมการ) ข้อมูลการมอบสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ข้อมูล
การหักเงิน (เช่น ภาษี) ข้อมูลการหักค่าตอบแทนเนื่องมาจากการดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมถึง รายละเอียดบัญชีธนาคาร จำนวนหนี้สิน หลักประกันต่าง ๆ วันที่ชำระเงินและวิธีการชำระเงิน สกุลเงินที่ชำระ
(6) ข้อมูลเพื่อดูแลความปลอดภัย เช่น ข้อมูลการเข้าใช้ระบบ การเข้าอาคาร ภาพ ภาพเคลื่อนไหวและเสียงจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การเข้าอาคารด้วยบัตร ซอฟต์แวร์บันทึกเวลา อินเทอร์เน็ต
อีเมล และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ รหัสสำหรับระบบข้อมูลสารสนเทศและสิทธิการเข้าถึงระบบข้อมูลสารสนเทศของบริษัท และข้อมูล
ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นโดยการใช้ระบบของท่าน
(7) ข้อมูลด้านการปฏิบัติงานและที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียน หรือการดำเนินคดี เช่น
การประเมินผลงาน
(8) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่ระบุในเอกสารราชการ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าและข้อมูลลายนิ้วมือ)
หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลอื่น (เช่น บิดามารดา บุตร
คู่สมรส ผู้ค้ำประกัน บุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง บุคคลอ้างอิงกรณีฉุกเฉิน ผู้อยู่ใน
ความอุปการะและผู้รับประโยชน์ของท่าน) แก่บริษัทฯ (เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์)
เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านควรมั่นใจว่าท่านมีสิทธิ และ/หรือ อำนาจ
ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบาย
ความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึงนโยบาย
ความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ ขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น (หากจำเป็น) และ/หรือ อาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
เราจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ (ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กล่าวคือ อายุไม่ถึง
20 ปีบริบูรณ์ หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามที่กฎหมายกำหนด) คนเสมือนไร้ความสามารถ
คนไร้ความสามารถ และไม่อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวสมัครเพื่อใช้หรือซื้อผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ
ของเรา หากไม่ได้รับความยินยอมหรือหากไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด ทั้งนี้หากเราทราบว่า เราได้บังเอิญเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเหล่านี้ โดยมิได้รับความยินยอมและโดยไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด เราจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันทีที่เราทราบถึงกรณีดังกล่าว
และอาจจำเป็นต้องหยุดให้บริการบุคคลเหล่านี้ เว้นแต่กรณีที่เราอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือ
ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
3. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยอาศัยความยินยอมโดยชัดแจ้ง
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย ทั้งนี้วัตถุประสงค์ต่าง ๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน มีดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารราชการสำหรับการระบุตัวตน เพื่อการตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่าน เพื่อเป็นเอกสารประกอบการจ้างเป็นกรรมการ
- ข้อมูลชีวภาพ เพื่อการเข้าออกพื้นที่ของบริษัทฯ
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ และบริษัทฯอาจขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมเป็นรายกรณีไป หากเราไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
3.2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
บริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณีเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้ อาจไม่บังคับใช้กับท่าน โปรดพิจารณาวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ
(1) การแต่งตั้งกรรมการ เช่น การคัดเลือกกรรมการ กระบวนการแต่งตั้งและต้อนรับกรรมการ การบันทึกข้อมูลที่เก็บรวบรวม การยืนยันตัวตนของท่าน การประเมิน
ความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่าน การกำหนดค่าตอบแทน และ/หรือ การกำหนดรายละเอียดสัญญาการเป็นกรรมการ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการเป็นกรรมการ
(2) การบริหาร การจ่ายค่าตอบแทนและการให้สวัสดิการ เช่น การจ่ายค่าตอบแทน
เงินปันผล การจัดให้มีสวัสดิการ การประเมินเพื่อปรับค่าตอบแทน รวมถึงการหักภาษีเงินได้ และการทำเรื่องเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่ท่าน
(3) การปฏิบัติภาระหน้าที่ในฐานะการทำงาน เช่น การออกบัตรประจำตัวกรรมการ
บัตรเข้าออกอาคารบริษัทฯ และ/หรือ บัตรอื่น ๆ การสนับสนุนการทำงาน (เช่น การส่งมอบอุปกรณ์เพื่อการปฏิบัติงาน การให้ความช่วยเหลือกรรมการตามที่มีการร้องขอ) การติดตามการใช้อุปกรณ์ของบริษัทฯ การออกหนังสือมอบอำนาจ การแต่งตั้งตัวแทน การประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร การวางแผน ดำเนินการ และ
จัดการความสัมพันธ์และสิทธิทางสัญญาในนามของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอำนาจให้ท่านดำเนินการทำธุรกรรมต่าง ๆ การนำชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไประบุในสัญญาที่เกี่ยวข้อง การบันทึกผลการทำงาน การประเมินผลการทำงาน การจัดทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ การจัดการกิจกรรมนันทนาการ การจัดทำผลสำรวจความคิดเห็น/ความพึงพอใจ การจัดการต่อคำร้องเรียน
การดำเนินการทางวินัย การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างกรรมการ
การออกจากงานและการเกษียณอายุ
(4) การติดต่อและสื่อสาร เช่น การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวกับธุรกิจ การเรียกประชุมกรรมการ และ/หรือ การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
(5) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กระบวนพิจารณา หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล ผู้กำกับดูแล หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ในกรณีบริษัทฯ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือ คำสั่ง หรือต้องให้ความร่วมมือดังกล่าว โดยบริษัทฯ
อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของรัฐดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ซึ่งรวมถึงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนภายใน การร้องเรียนหรือ
การเรียกร้อง การสืบสวนสอบสวนหรือป้องกันอาชญากรรม การฉ้อโกง และ/หรือ เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(6) วัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเราหรือของบริษัทในเครือ
เมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตใด ๆ ข้อร้องเรียนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย) เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน การบริหารความเสี่ยงและ
การควบคุมภายใน ให้ติดตามกำกับดูแลรวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารองค์กรภายใน
เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ การบริหาร การจัดทำรายงาน นโยบายภายในองค์กรตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของเรา
(7) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
ทั้งนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราอาจส่งผลกระทบต่อท่าน กล่าวคือ เราไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ หรือท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส และในบางกรณี เราอาจไม่สามารถตกลงจ้างท่านหรือดำเนินการจ้างงานกับท่านได้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวยังอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่เราหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
4. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลหรือหน่วยงานใดบ้าง
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ท่านเองก็อาจตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นได้เช่นกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย
4.1. บริษัทในเครือ
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือ นั้น เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
4.2. ผู้ให้บริการของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจว่าจ้างบริษัทอื่น ตัวแทน หรือผู้รับจ้างในการให้บริการในนามของบริษัทฯ หรืออำนวยความสะดวกในการมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้กับท่าน โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า (3) ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (4) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (5) ผู้ให้บริการจัดอบรมสัมมนา / วิทยากร (6) ผู้ให้บริการทางการเงินเพื่อการทำจ่ายค่าตอบแทนกรรมการ
(7) ผู้ให้บริการสิทธิสวัสดิการกรรมการ (8) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือ ทำลายเอกสาร (9) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์หรือการนำส่งอีเมล (10) ผู้ให้บริการด้านการจัดหางานและการบริหารทรัพยากรบุคคล (11) ผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติบุคคลเพื่อสรรหาบุคลากร
(12) ผู้ให้บริการด้านใบอนุญาตทำงานและวีซ่า (13) ผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน (14) ผู้ให้บริการสำรวจความคิดเห็น/ความพึงพอใจ และ/หรือ (15) ธนาคารและสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ ในการให้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทฯ เพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อวัตถุประสงค์อื่นแต่อย่างใด
4.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเปิดเผยหรือโอนในลักษณะนี้จะอยู่ภายใต้นโยบาย
ความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอก มิใช่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
4.4. บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หน่วยงานรัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทฯ มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่
ตามกฎหมายหรือข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหา
การทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
4.5. ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ที่ปรึกษาอิสระ เช่น ที่ปรึกษาโครงการ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาทางบัญชี ที่ปรึกษาทางการตลาด (2) ที่ปรึกษากฎหมายซึ่งให้
ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และให้บริการดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คดีหรือฟ้องร้องคดี (3) ผู้สอบบัญชีซึ่งให้บริการด้านบัญชี หรือตรวจสอบบัญชีแก่บริษัทฯ และ/หรือ (4) ผู้ตรวจสอบหรือผู้ตรวจประเมินอื่น ๆ
4.6. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่
ในกรณีมีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน
การโอนสิทธิ การเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจำหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือการทำธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของบริษัทฯ จะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อเป็นการเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.7. ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด
เพื่อวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงลูกค้า บุคคลหรือนิติบุคคลที่อาจมาเป็นลูกค้า บุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านร้องขอ ผู้ขอตรวจสอบบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สื่อมวลชน และ/หรือ การเปิดเผยสู่สาธารณะ
5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือผู้ให้บริการ
ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐาน
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่า บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนไปในระดับที่เพียงพอ และบุคคลที่รับโอนข้อมูล
ส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมหรือตามที่กฎหมายกำหนด และในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
หากเป็นกรณีที่กฎหมายต้องให้ขอความยินยอม
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสมเพื่อใช้
ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ แจ้งแก่ท่านตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้น หากจำเป็น และ/หรือ สามารถกระทำได้โดยชอบตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
(1) การเข้าถึง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน
(2) การแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ
ได้เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ให้ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(3) การโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และ
เพื่อส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ และ (ข) กรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ มีกับท่าน ทั้งนี้ หากการใช้สิทธิของท่านละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ มีดุลพินิจในการปฏิเสธคำขอของท่านได้
(4) การคัดค้าน ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ของท่านทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
(5) การระงับการใช้ ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี
(6) การถอนความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน
ในบางกรณี
อย่างไรก็ตาม การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบให้เราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่
ตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ในบางประการ หากท่านประสงค์ที่จะทำความเข้าใจเพิ่มเติม
ถึงผลกระทบในการถอนความยินยอมของท่าน หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิขอถอนความยินยอม โปรดติดต่อเราได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุด้านล่างนี้
(7) การลบหรือทำลาย ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของบริษัทฯ นั้นเป็นไปเพื่อ
การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือ
การปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(8) การร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ก่อนที่เราจะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน เราอาจมีความจำเป็นในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่าน ด้วยเหตุนี้เอง เราอาจขอให้ท่านมอบ/แจ้ง ข้อมูลการยืนยันตัวตนของท่าน (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ที่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนใด ๆ) เมื่อเรายืนยันตัวตนของท่านเสร็จสิ้น เราจะดำเนินการตามคำของท่านโดยเร็ว แต่ไม่ว่าในกรณีใด
จะไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว ในกรณีที่เราเห็นว่าคำขอนั้นไม่สมเหตุสมผล (manifestly unfounded) หรือฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น (excessive) อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อการปฏิบัติตามคำขอดังกล่าว
8. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ
ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตาม
ที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการเข้าใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน
สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน
เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบ
ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคล
9. ติดต่อเรา
หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ
บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด
555/1 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ ชั้น 3
ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทร +66(0) 2140 1555
อีเมล pdpa@pttlng.com
ประกาศ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
(นายรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์)
กรรมการรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่